อะไรคือสาเหตุให้หนึ่งในนักเตะที่เคยเนื้อหอมที่สุดของยุโรปอย่าง นิโคลัส เปเป้ ไม่ประสบความสำเร็จกับ อาร์เซนอล?
นิโคลัส เปเป้ ย้ายกลับไปเล่นในลีกเอิงอีกครั้งกับ นีซ ด้วยสัญญายืมตัวนาน 1 ฤดูกาล หลังไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ในฤดูกาลนี้
ดาวเตะเจ้าของค่าตัวสถิติสโมสร 72 ล้านปอนด์ มีเส้นทางการค้าแข้งที่ไม่สวยงามนักกับ อาร์เซนอล ทั้งที่เมื่อสามปีที่แล้วเขาคือหนึ่งในนักเตะที่บรรดาบิ๊กทีมของยุโรปต่างต้องการได้ตัวไปร่วมทีม
การเปลี่ยนแปลงภายในสโมสร
นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ เปเป้ เมื่อทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำตัวเขามาอยู่กับ อาร์เซนอล อำลาทีมไปแทบจะทันทีที่เขามาถึง
ราอูล ซานเญฮี อดีตหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมฟุตบอลมีบทบาทสำคัญในการดึงตัวดาวเตะไอวอรีโคสต์มาอยู่กับสโมสร รวมถึง ฮัสส์ ฟาห์มี ที่เป็นคนเจรจารายละเอียดส่วนตัวกับ เปเป้ ทำให้สองคนนี้มีส่วนสำคัญอย่างมากกับดีลครั้งนี้
ทว่าหลังจากการย้ายมาของ เปเป้ ไม่นาน ทั้งสองคนก็อำลาทีม เช่นเดียวกับตำแหน่งเฮดโค้ชที่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาทำหน้าที่แทน อูไน เอเมรี และสร้างทีมด้วยปรัชญาใหม่
และหลังจากการมาของกุนซือชาวสเปนบทบาทของ เปเป้ ก็ค่อยๆลดลง จนกลายเป็นส่วนเกินของแท็คติคในที่สุด
ขาดความสม่ำเสมอ
คงไม่ยุติธรรมนักถ้าจะบอกว่า เปเป้ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับ อาร์เซนอล เพราะเขามีช่วงเวลาที่ดีให้เราได้เห็นอยู่บ้าง รวมถึงฟอร์มการเล่นในช่วงท้ายฤดูกาลแรกของ มิเกล อาร์เตต้า โดยเขามีส่วนสำคัญกับความสำเร็จในถ้วย เอฟเอ คัพ
ในฤดูกาล 2020-21 เขาทำไป 16 ประตู รวมทุกรายการ ซึ่งเป็นการทำถึง 8 ประตู จาก 11 เกมสุดท้ายของฤดูกาล
แต่ปัญหาหลักของปีกชาวไอวอรีโคสต์คือความสม่ำเสมอ ไม่มีใครสงสัยเรื่องคุณภาพฝีเท้าของเขา แต่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาเกิดขึ้นแค่บางนัดและไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องโดนแฟนบอลคาดหวังมากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อคุณมีกุนซือที่ต้องการมาตรฐานสูงอย่าง อาร์เตต้า คุณต้องเจอปัญหาแน่นอน
เล่นเกมรับไม่เป็น
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของ เปเป้ คือเข้าเล่นเกมรับได้ไม่ดี ซึ่งภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า นักเตะเกมรุกต้องคอยช่วยเกมรับด้วยในตอนที่ไม่มีบอล
ต้องยอมรับว่าการเล่นเกมรับไม่ใช่จุดแข็งของปีกไอวอรีโคสต์ เราสัมผัสได้ถึงความหงุดหงิดของกุนซือชาวสเปนที่ต้องคอยตะโกนบอก เปเป้ ถึงตำแหน่งการยืนเวลาเล่นเกมรับในเกือบทุกเกมที่เขาลงสนาม
หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในเกมกับ แอสตัน วิลลา ฤดูกาลที่แล้ว เมื่อทีมนำอยู่ 1-0 และอาร์เตต้าเปลี่ยนตัว เปเป้ ลงสนามในช่วงท้ายเกม เขาทำผิดพลาดจนทีมเสียฟรีคิกในระยะอันตราย ซึ่งทำให้กุนซือชาวสเปนออกอาการหัวเสียอย่างชัดเจน
การแจ้งเกิดของ บูกาโย ซาก้า
นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เปเป้ ไม่สามารถมีตำแหน่งในทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ได้
ซาก้า เป็นดาวรุ่งระดับปรากฏการณ์ที่ก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมีและกลายเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษพิสูจน์ตัวเองได้ทันทีว่าเขามีดีพอจะได้อยู่ในทีม ซึ่งด้วยฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอและคุณภาพที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนในทุกด้าน ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ เปเป้ จะแย่งตำแหน่งกับเจ้าหนูรายนี้
ไม่เข้าระบบ
เปเป้ ย้ายจาก ลีลล์ มาอยู่กับ อาร์เซนอล ในฐานะผู้เล่นแนวรุกที่อันตราย ฤดูกาลสุดท้ายกับอดีตต้นสังกัดเขาทำไปถึง 22 ประตู พร้อมกับโชว์ลีลาการเล่นสุดเร้าใจ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถทำผลงานระดับนั้นได้เลยกับการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก เป็นที่น่าสังเกตุว่าฟอร์มการเล่นที่ดีของเขาเกิดในช่วงแรกที่ อาร์เตต้า เข้ามารับช่วงต่อจาก อูไน เอเมรี ตอนที่ทีมยังเล่นด้วยสไตล์เน้นการสวนกลับมากกว่าปัจจุบัน
แต่หลังจากที่กุนซือชาวสเปนเริ่มสร้างทีมขึ้นมาใหม่ มีการดึงตัวผู้เล่นที่เขาต้องการและทำทีมตามสไตล์ที่ตัวเองต้องการ ตั้งแต่นั้นโอกาสลงสนามของ เปเป้ ก็เริ่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
